ชายวิถีเซน ผู้กอบกู้มนุษย์ด้วยการคืนผึ้งสู่ธรรมชาติ
ปัญหาใหญ่อีกอย่างที่โลกกำลังต้องเผชิญคือการสูญพันธ์ของสัตว์
ไม่ใช่สัตว์ใหญ่ๆอย่างช้างหรือแรด แต่เป็นสัตว์ขนาดเล็กอย่างเหล่าแมลง
ที่เป็นแรงงานชั้นต่ำที่คอยขับเคลื่อนระบบนิเวศน์ มีการพบว่าสายพันธุ์ของแมลงลดลงมากกว่า 40% และจำนวนของมันมีอัตราลดลงถึง 2.5
% ต่อปี อัตราการลดลงขนาดนี้ถือว่ามีอัตราการลดลงมากกว่าเผ่าพันธ์อื่น
อย่างสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ปีกหรือสัตว์เลื้อยคลาน ถึง 8 เท่าตัวเลยทีเดียว
โดยเฉพาะ “ผึ้ง” ที่หลายฝ่ายกังวลว่าการหายไปของพวกมันจะสร้างหายนะ “หากผึ้งสูญพันธุ์
ภายในสี่ปี มนุษย์เราก็จะสูญพันธุ์ด้วย” ไอสไตน์เคยทำนายไว้ ในหลายประเทศอย่าง
สหรัฐอเมริกา อังกฤษหรือรัสเซีย มีรายงานออกมาว่าประชากรของผึ้งหายไปถึง 1 ใน 3 ซึ่งมีการพบว่าจริงๆแล้วปรากฎการณ์ผึ้งหายไปนั้น
ถูกพบมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 19 แต่เพิ่งมาเห็นเด่นชัดเอามากก็เป็น 10 กว่าปีมานี้เอง
จนกังวลกันไปว่าผึ้งอาจจะสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ด้วย
ในบรรดาพืช 100 ชนิดที่เป็นอาหารเลี้ยงประชากรร้อยละ 90 ของประชากรมนุษย์ทั้งโลก
มี 70 ชนิด ที่ต้องการผึ้งเป็นตัวผสมละอองเกสรให้ ยังไม่นับพืชพันธุ์ต่างๆในป่า
หากผึ้งหายไปอาจนำมาสู่ภาวะการขาดแคลนอาหาร และการล้มสลายของระบบนิเวศน์
แม้จะมีสัตว์ชนิดอื่นที่ทำหน้าที่นี้ได้อย่างผีเสื้อ
แต่ก็ไม่สามรถผสมเกสรจำนวนมากและระยะทางไกลได้เท่ากับเหล่าผึ้งงาน
ถามกลางวิกฤตที่ดูเหมือนจะเป็นฝันร้ายกำลังจะมาถึง
เรามักจะเห็นว่าใครสักคนอยู่ในสักมุมหนึ่งของโลกกำลังก้มหน้าทำหน้าที่ของเขา เพื่อพาโลกออกจากฝันร้ายนั้น
เหมือนกับ Michael Thiele นักเลี้ยงผึ้งชาวเยอรมัน ผู้อาศัยอยู่ที่ แคลิฟอร์เนีย
สหรัฐอเมริกา “เราสามารถทำสิ่งที่มันง่ายดายด้วยการ คืนผึ้งกลับไปอยู่ตามธรรมชาติของมัน
กลับไปยังวงจรธรรมชาติ” ในสหรัฐมีรายงานว่าเช่นกันว่ามีผึ้งหายไปถึง 40 % มีผู้เชี่ยวชาญออกมาบอกว่าสาเหตุหลักมาจาก
การใช้ยาฆ่าแมลงอย่างเข้มข้น การขยายตัวของเมือง และภาวะโลกร้อน ที่ทำให้ผึ้งหายไป
แม้แต่ผึ้งที่เลี้ยงฟาร์มเองก็หายไป ไม่กลับเข้ามายังรังที่เลี้ยงไว้
Thiele
ได้ก่อตั้งโครงการ “Apis Arborea” ที่แปลว่า “ผึ้งต้นไม้” ในภาษาลาติน
ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มในการให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงผึ้ง และความสำคัญของผึ้งในระบบนิเวศน์
ร่วมกับนักชีววิทยาเพื่อทำภารกิจสำคัญในการอนุรักษ์ผึ้งและปกป้องมนุษย์ชาติ!!
เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2002 การอนุรักษ์ผึ้งของเขาไม่ได้จากความรักธรรมชาติและสรรพสิ่ง
แต่มันเกิดจากความฝันอันประหลาด ในขณะที่เขากำลังเรียนการรู้เพื่อบวชเป็นพระในลิทธิเซน
ที่ศูนย์ San Francisco Zen Center คืนหนึ่งเขาฝันเห็นฝูงผึ้งบินเข้าไปในป่า เมื่อตื่นขึ้นเขาไม่ได้มองความฝันคืนนั้นว่าเป็นลางร้ายแต่อย่างได
เขายืมรังผึ้งจำลองมาจากนักเก็บผึ้งแถวนั้น แล้วเอามันไว้ที่สวนหลังอาคาร
San Francisco Zen Center แล้ววันต่อมาก็มีผึ้งเต็มสวนไปหมด
จากนั้นเป็นต้นมาเขาก็อุทิศเวลาในชีวิตไปกับการเป็นนักเลี้ยงผึ้ง โดยใช้สวนหลังสถานปฎิบัติธรรมของเขาเป็นที่ทำงาน
แต่สิ่งที่ต่างออกไปคนเลี้ยงผึ้งคนอื่นๆคือเขาการใช้วิถีเซนในการทำงาน Thiele ปฎิเสธการใช้เครื่องมือจับผึ้ง การใช้ควัน
สารเคมี หรือชุดสวมใส่ป้องกันใดๆ ใช้เพียงแค่มือเปล่าขอเขาในการจับขนย้ายผึ้ง “ผมพยายามจะรับรู้ความรู้สึกของพวกมัน”
Thiel มองว่าการจับผึ้งมือเปล่าของเขาการทำสมาธิแบบเซนอย่างหนึ่ง
ทำให้เขาเข้าใจผึ้งมากยิ่งขึ้น “มันก็เหมือนการเรียนรู้เกี่ยวกับสิงโตในสวนสัตว์นั้นละครับ”
ต่างจากสัตว์ขนาดใหญ่ที่เราสามารถมองเห็นแววตาท่าทางของพวกมันได้
แต่ผึ้งต้องอาศัยการสัมผัสกับพวกมัน
ในปี 2006 เขาจึงได้เริ่มภารกิจของเขาในการเริ่มคืนผึ้งสู่ธรรมชาติ ขยายออกจากเพียงสวนของเขาสู่ผืนป่าด้วยการนำรังผึ้งจำลองที่ทำจากไม้ไปแขวนไว้ตามต้นไม้สูงในป่า แล้วนำพวกมันจากผึ้งที่เลี้ยงกับกลายเป็นผึ้งป่าด้วยมือเปล่าของเขา
โดยได้รับความร่วมมือจากการนักชีววิทยา และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผึ้ง