ศาสนาจารย์ จิม แอนทัล: ผู้ที่เชื่อในพระเจ้าจงสู้กับโลกร้อน

หลายคนเริ่มวิตกอย่างหนักกับสถานการณ์ และหลายคนถึงกับต้องพบจิตแพทย์เนื่องจากกังวลกับเรื่องนี้
“ถ้าคุณไปพูดอยู่ที่แคริฟอร์เนีย
คุณจะได้เจอคนที่มีคนรู้จักตายจากไฟป่า หรือคนที่เพิ่งรอดจากมันมาได้ ทั่วประเทศมีแต่คนที่ต้องพบกับไฟป่าไม่ก็น้ำท่วม
จากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างสุดขั้ว” จิม แอนทัล (Jim Antal) ศาสนาจารย์ ที่เดินทางไปเทศนาคำสอนทั่วสหรัฐอเมริกา
ไม่ใช่แค่คำสอนเรื่องศาสนาเท่านั้น เขายังมักพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศด้วย
เขาทั้งปลอบโยนเหยื่อที่ถูกผลกระทบ
และให้แรงบันดาลที่จะลงมือสร้างความเปลี่ยนแปลง จิมเป็นนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมตัวยง
โดยมองว่านี้เป็นหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่ง
ที่ผู้ซึ่งเชื่อในพระเจ้าต้องช่วยกันลงมือทำ
นอกจากนั้นเขายังเป็นที่ปรึกษาพิเศษให้กับ “Climate Justice”
เครือข่ายภาคประชาสังคมที่ทำงานเกี่ยวเรื่องนี้ และยังมีตำแหน่งสูงสุดใน “United
Church of Christ” องค์กรทางศาสนานิกายโปรเตสแตนต์ขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ
ที่เป็นองค์กรทางศาสนาแรกที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศอย่างจริงจัง
ซึ่งในสหรัฐที่ผ่านมามีคนที่ปฏิเสธว่าโลกร้อนเกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์จำนวนไม่น้อย(หนึ่งในนั้นคือโดนัลด์
ทรัมป์) จิม อธิบายใน "Climate Church, Climate World."
หนังสือที่เขาเขียนว่า
การที่ผู้คนมักจะไม่ใส่ใจเกี่ยวกับวิกฤตการณ์เปลี่ยนสภาพอากาศ
เนื่องจากในทางประสาทวิทยาบอกว่า สมองของเราตอบสนองได้ไม่ดี ในภัยคุกคามที่เป็นระยะยาว
แต่มักจะคิดถึงภัยระยะสั้นได้ดี อย่างการเตรียมการรับมือกับพายุหรือไฟป่า
แต่ไม่คิดว่าทั้งสองอย่างนี้เกิดถี่ขึ้นเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
แต่มีการสำรวจเมื่อไม่นานมานี้พบว่า ในสหรัฐมีคนที่เชื่อว่าและคิดว่าภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่น่ากังวลถึง
2ใน 3 มากขึ้นที่สุดในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา
จึงเป็นไปได้ที่เมื่อภัยพิบัติที่โลกกำลังเผชิญเกิดถี่ขึ้น
กลายเป็นภัยใกล้ตัวเลยทำให้คนหันมาตื่นตัวมากยิ่งขึ้น แต่ในทางกลับกัน กับพบว่าองค์กรทางศาสนาในสหรัฐมักจะปฏิเสธ
การมีอยู่ของวิกฤตการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศว่าเกิดจากฝีมือมนุษย์
“ถ้าคุณเชื่อในพระเจ้า คุณมีหน้าที่ทางศีลธรรมต้องสู้กับภาวะโลกร้อน”
จิมกล่าว
เรียกร้องให้ผู้ที่มีศรัทธา ออกมาปกป้องโลกที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างขึ้นมา
“ผมเชื่อในผู้ที่มีศรัทธาทั่วโลกว่าพวกเขามีความสามารถ
ที่จะกำหนดทิศทางของอนาคตได้ ที่สหรัฐเราเน้นย้ำแต่เรื่อง การพ้นบาปส่วนตัว ในขณะที่หลงลืมการพ้นบาปร่วมกัน”
ทั้งนี้เขายังสนใจแนวคิด Green New Deal แผนปฏิรูปเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
ที่เสนอโดย อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เตซ (Alexandria
Ocasio-Cortez) นักการเมืองรุ่นใหม่ จากพรรคเดโมแคต ที่เสนอการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดย จิมมองว่า
พลังงานทางเลือกอย่างแสงอาทิตย์ ลม และน้ำ
เป็นพลังงานที่พระเจ้าประทานมาให้อยู่แล้ว
เราจึงมีเครื่องมือที่จะช่วยการทำร้ายโลกอยู่ในมือของเราอยู่แล้ว
และตลอดเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมาโลกมีเทคโนโลยี ที่สามารถออกจากยุคการใช้พลังงานจากถ่านหินและฟอสซิลได้แล้ว แต่เกิดมีการลอบบี้จากทางอุตสาหกรรมถ่านหินขัดขวางเอาไว้
“การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจะนำเราไปสู่วิกฤตผู้ลี้ภัยที่รุนแรง
ยิ่งคนในพื้นที่ยากจน
ที่มีควาสามารถในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ต่ำ
จะเป็นผู้ได้รับผลกระทบที่สุด และส่วนหนึ่งต้องทนทุกข์กับผลกระทบของมันแล้ว”
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (Pope Francis) เคยกล่าวไว้ในปี 2016 ซึ่งเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ผู้นำทางศาสนาออกมาพูดเรื่องสิ่งแวดล้อม
ถือเป็นการปรับตัวที่น่าสนใจของศาสนาที่จะเชื่อมโยงกับโลกกมากขึ้น