7 การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น เพื่อสู้กับการขาดแคลนอาหาร
องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ
(FAO) ได้จัดทำรายงานชิ้นใหม่ออกมา
ที่ชี้ให้เห็นว่าภาวะอดอยากและหิวโหยของผู้คนในโลก ยังอยู่ในระดับที่สูงขึ้น
โดยสถิติเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่มากกว่า 821 ล้านคนทั่วโลก เพิ่มขึ้น 10 ล้านคนจากปี 2017 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 811 ล้านคน
ปัญหาการอดยากปัญหาหลักอย่างหนึ่งเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจ
ที่ไม่สามารถกระจายความมั่งคั่งได้อย่างดีพอ ทำให้คนส่วนล่างฐานเศรษฐกิจไม่สามารถเข้าถึงอาหารได้ และอีกส่วนหนึ่งเป็นปัญหาของการผลิตอาหารของโลกในปัจจุบัน
ที่มีปัญหาทางระบบ ทำให้ไม่สามารถผลิตอาหารเลี้ยงผู้คนได้เพียงพอ ยิ่งประชากรโลกมีจำนวนมากขึ้นตลอด
และภายในปี 2050 คาดกันว่าโลกจะมีประชากรจะมี 10,000 ล้านคน
แนวโน้มที่โลกจะไม่สามารถผลิตอาหารๆได้อย่างเพียงจึงมีสูง ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง

1.ลดการบริโภคเนื้อ
ดูจะไม่เกี่ยวกันแต่เกี่ยว
เพราะปัจจุบันเราอยู่ในระบบการเกษตรเชิงเดี่ยว
ที่เราต้องปลูกพืชผักเพื่อนำไปเลี้ยงสัตว์ แล้วเราค่อยกินสัตว์เข้าไปอีกทีหนึ่ง
ทำให้เราเสียพื้นที่การเกษตรไปประมาณถึง 1
ใน
3 ในการปลุกพืชเพื่อเป็นอาหารสัตว์ การลดการกินเนื้อสัตว์จึงถูกเสนอเป็นทางเลือกหนึ่ง
โดยเฉพาะเนื้อวัว ที่จะสู้กับการขาดแคลนอาหารได้
ทั้งยังเป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมที่จะลดการปล่อยคาร์บอนจากอุตสาหกรรมปศุตสัตว์
และลดการทำลายพื้นที่ป่าอย่างดี
โดยยิ่งในประเทศที่บริโภคเนื้อสัตว์มาก จนเยอะเกินความจำเป็น อย่างอเมริกาเหนือที่กินเนื้อมากกว่ามีวิจัยแนะนำ
6.5 เท่า
ต่างกันกับในอาเซียนเรา ที่กินเนื้อวัวน้อยกว่างานที่แนะนำถึงครึ่งหนึ่ง มีการประมาณการว่าต้องใช้พื้นที่ถึง
1.1 ล้าน เอเคอร์เพื่อผลิตโปรตีนในกับคนสหรัฐอเมริกาที่
บริโภคโปรตีนมากเกินไป
2.เปลี่ยนวิธีการผลิตอาหาร
การผลิตอาหารหลักของโลกอยู่ในรูปแบบอุตสาหกรรมใหญ่
ที่ใช้การปลูกพืชเชิงเดี่ยวเป็นหลัก ทั้งยังใช้สารเคมีจำนวนมหาศาล
ทำให้สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และยังทำให้ความอุดมสมบูรณ์ลดลง มีงานศึกษาที่บอกว่าหากยังเรายังเกษตรแบบนี้อยู่
พื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ที่ทำอยู่จะไม่สามารถใช้งานได้อีกใน 60 ปีข้างหน้า ทำให้ต้องเปิดพื้นที่ใหม่ไม่มีสิ้นสุด ในปัจจุบันก็ยังพบว่าผลผลิตทางการเกษตรผลิตได้น้อยลงราว 20% จากที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว
3 เปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อาหาร (Supply chain)
กว่าอาหารจะเข้ามาสู่จานของเราได้วัตถุดิบนั้นต่างมาจากหลากหลายที่มา
เช่นพริกจากสเปน เครื่องเทศจากอินเดีย จึงมีสิ่งที่เรียกว่า “Food mile” ขึ้นมา
ซึ่งจะติดอยู่ตามฉลากอาหารสดตามห้างสรรพสินค้า
เพื่อบอกว่าสินค้าที่เรากำลังจะซื้อเดินทางมาไกลเท่าไหร่
ซึ่งมีการรณรงค์ในใช้อาหารที่มี Food miles น้อย คืออาหารมาจากใกล้ๆเมืองที่เราอยู่ เพราะทำให้ลดการขนส่งที่สิ้นเปลืองพลังงาน
และยังทำให้อาหารเสียไปจำนวนมากระหว่างขนส่ง แต่การจะมีวัตถุดิบจากไกล้เคียงมาใช้ประกอบอาหารนั้น
ต้องเปลี่ยนแปลงระบบการผลิตอย่างมาก อย่างสนับสนุนให้เกษตรกรท้องถิ่นปลุกผสมผสานมากขึ้น
4 จัดการอาหารเหลือ
ตัวเลขจากองค์การสหประชาชาติ
บอกว่าอาหารที่ผลิตมาทั้งหมดในโลกมีถึง 1 ใน 3 ที่ไม่ได้มาอยู่บนจานอาหารของเรา
อาหารเหล่านั้นกลายเป็นอาหารเหลือทิ้งไป รวมแล้ว 1.3 พันล้านตันต่อปี ยุโรปและอเมริกาเหนือ
เป็นภูมิภาคที่มีอาหารเหลือมากที่สุดในโลก อาหารหนึ่งเหลือเพียง 1 ส่วน 4 ของในอเมริกาเหนือและยุโรปสามารถนำไปเลี้ยงชีวิตผู้อดยากทั่วโลกได้ถึง
1 พันล้านคน
หลายประเทศอย่างฝรั่งเศส เริ่มมีการจัดการอาหารเหลือแล้วเพราะมองว่า หากปล่อยให้อาหารเหลือยังคงจำนวนมาก
โลกจะต้องใช้พื้นที่การเกษตรมากเกิน ทั้งยังทำให้ราคาอาหารสูงขึ้น
5 การผลิตแบบเข้มข้น
พื้นที่เกษตรในโลกมีจำกัด หากจะเพิ่มพื้นที่การเกษตรออกไป
จะต้องไปใช้พื้นที่ป่าอีกจำนวนมาก ทั้งยังใช้ทรัพยากรธรรมมชาติอีกมากมาย
ในเมื่อความต้องการอาหารมีมากขึ้นแต่พื้นที่ยังอยู่เท่าเดิม
การผลิตที่เข้มข้นจึงจำเป็น คือใช้พื้นที่เท่าเดิมแต่ให้ได้ผลผลิตมากขึ้น
ปัจจุบันเกษตรในประเทศด้อยพัฒนาในหลายพื้นที่
ยังทำเกษตรได้ผลผลิตน้อยเกินไปเมื่อเทียบพื้นที่ซึ่งใช้ไป
การนำนวัตกรรมและความรู้ทางการเกษตรเข้าไปใช้เพื่อเพิ่มการผลิต จึงจำเป็นในอนาคต
6.มาตรการลงโทษ
เกษตรกรรมเป็นภาคส่วนที่สร้างความเสียหายให้สิ่งแวดล้อมอย่างมาก
การทำความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมของเกษตรกรคนหนึ่ง
จะเป็นปัญหาลูกโซ่ไปสูงระบบเกษตรโดยภาพรวม
รัฐจึงควรมีมาตรกรลงโทษเกษตรที่สร้างความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อม ในฐานะที่สร้างความเสียหายให้กับสาธารณะ
อย่างการปล่อยมลพิษ ทำลายพื้นที่ป่า หรือทำให้ดินเสียความอุดมสมบูรณ์
7.แหล่งโปรตีนใหม่
เมื่อแหล่งอาหารเก่ามีไม่มากพอเราก็ต้องหาแหล่งใหม่ โดยเฉพาะแหล่งโปรตีที่เราสามรทดแทน
การกินอาหารสัตว์ที่มีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่กล่าวไว้ ด้วยหาแหล่งโปรตีนใหม่
อย่างบริโภคธัญญาพืขมากขึ้น รวมถึงแมลงที่มีอยู่จำนวนมากที่ให้โปรตีนสูง
https://www.weforum.org/agenda/2019/04/south-korea-recycling-food-waste/?fbclid=IwAR1VOX-Wr70qmdM6KFWz21YlbBNTOGxI9zWWFYiv60doadN2X-csWJMjknI